โยเกิร์ต เป็นอาหารพื้นฐานของครัวตะวันออกกลางมาแต่โบราณ สมัยก่อนชาวอาหรับเรียกโยเกิร์ตว่า “Persian milk” กล่าวกันว่าชาวอารยัน ชนเผ่าสมัยกว่า 1,700 ปีก่อนคริสตกาล ที่กระจายตัวอยู่ในเขตอิหร่าน อาร์มีเนีย และตุรกีปัจจุบัน ผู้นับถือคัมภีร์พระเวท เน้นอาหารจากนมวัวเป็นหลัก เป็นกลุ่มชนกลุ่มแรกที่ใช้โยเกิร์ตเป็นอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากนั้นจึงแพร่ไปทั่วตะวันออกกลาง เอเชียกลาง รวมทั้งอินเดียตอนเหนือ และเขตบอลข่าน และคอเคซัส

โยเกิร์ต เป็นนมหมัก (fermented milk) ด้วยแบคทีเรียในธรรมชาติน่าจะเป็นที่รู้จักกินกันมาแล้วตั้งแต่อารยธรรมเมโสโปเตเมีย ยุคหินใหม่สมัย 6,000 ปีก่อนคริสตกาล ล่วงมาถึงสมัยชนเผ่าอารยัน การใช้โยเกิร์ตเป็นอาหารจึงทวีความสำคัญมากขึ้น และต่อมาพัฒนาขึ้นเป็นเครื่องปรุงพื้นฐานอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารเปอร์เซียและตะวันออกกลาง และในบทความนี้เราจะมาบอกวิธีทำโยเกิร์ตฉบับง่ายๆกัน

โยเกิร์ต

ส่วนประกอบ

– นม 1 ควอทซ์ หรือ 946 มล. หรือจะใช้เป็นนม UHT คุณก็สามารถข้ามขั้นตอนที่หนึ่งไปได้เลย เพราะนมชนิดนี้ได้ผ่านกระบวนการให้ความร้อนก่อนที่จะบรรจุลงกล่องแล้ว

– นมผงขาดมันเนย 1/4 ถึง 1/2 ถ้วย

– น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับเป็นอาหารเลี้ยงเจ้าแบคทีเรีย

– เกลือสักเหยาะ (ถ้ามี)

– โยเกิร์ตสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนในการบ่มโยเกิร์ต

– เทนมลงในภาชนะ จากนั้นนำฝาหรือแผ่นพลาสติกมาปิดภาชนะแต่ละใบให้สนิท

– วางโยเกิร์ตให้นิ่งในระหว่างรอแบคทีเรียเพาะเชื้อ การกระตุกอาจไม่ได้ทำโยเกิร์ตของคุณพัง แต่จะทำให้ต้องใช้เวลาในการเพาะเชื้อนานขึ้น

– หลังจากผ่านไป 7 ชั่วโมง โยเกิร์ตของคุณจะมีผิวเหมือนคัสตาร์ด มีกลิ่นเหมือนชีส และอาจมีของเหลวสีเขียวๆ อยู่ด้านบน ะยิ่งคุณวางทิ้งไว้นานมากเท่าไร โยเกิร์ตของคุณก็จะยิ่งข้นและเปรี้ยวมากเท่านั้น

เคล็ดลับในการบ่มโยเกิร์ต

คุณสามารถใช้หลอดไฟแสดงสถานะบนเตาได้เช่นเดียวกัน หรือจะอุ่นเตาจนได้อุณหภูมิที่ต้องการ ปิดตัวทำความร้อนและเปิดเครื่องทิ้งไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิ และคอยเปิดตัวทำความร้อนเป็นช่วงๆ ตามความเหมาะสมเพื่อรักษาอุณหภูมิของเตา วิธีการนี้อาจจะยุ่งยากสักหน่อย และต้องคอยระวังไม่ให้เตาร้อนเกินไป หรืออาจจะใช้โปรแกรมหมักแป้งหากมีในเตาอบของคุณ

วิธีการอื่นๆ คือการใช้เครื่องอบแห้งอาหาร ตั้งค่าอุ่นหม้อหุงข้าว ใช้กระเป๋าน้ำร้อนโดยตั้งเป็นความร้อนต่ำ หรือใช้หม้อตุ๋นโดยตั้งค่าเป็นต่ำสุด

ถ้าคุณไม่มีสิ่งของเหล่านี้ คุณสามารถใช้หน้าต่างที่แดดส่องถึงหรือรถที่จอดทิ้งไว้กลางแดด เพียงแต่ต้องจำไว้ว่านมที่โดนแดดอาจมีคุณค่าทางอาหารน้อยลง วิธีการที่ดีที่สุดคือการรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 49องศา แต่อย่าให้ต่ำกว่า 32องศา โดยอุณหภูมิที่ดีที่สุดคือ 43องศา นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทน้ำอุ่นลงในอ่างล้างจาน ชามใบใหญ่ๆ หรือกระติกปิคนิคขนาดเล็ก แล้ววางภาชนะโยเกิร์ตลงไปบนน้ำอุ่น

ประโยชน์ของโยเกิร์ต

– ช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น

– ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น

– โยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง

– ช่วยลดคอเรสเตอรลอได้ดี

– ช่วยควบคุมน้ำหนัก

– โยเกิร์ตช่วยลดกลิ่นปาก

– โยเกิร์ตช่วยเสริมสร้างคุ้มกัน

– โยเกิร์ตช่วยให้หลับสบาย

ข้อควรระวังของการรับประทานโยเกิร์ต

– ไม่ควรรับประทานโยเกิร์ตใส่มะนาวก่อนนอน

– สิ่งที่คุณควรระวังตอนรับประทานโยเกิร์ตก่อนนอน และควรทำทุกครั้งเป็นประจำ

– ไม่ควรรับประทานโยเกิร์ตเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหารของคุณได้

ที่มา

stri.cmu.ac.th

women.trueid.net

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ marblegrand.com